หลังจากที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก เมื่อ พ.ค.49 (10 กว่าปีก่อน ถูกต้อง)
มาบัดนี้เกิดอาการกระสันอยากอีกแล้ว ยิ่งนังเพื่อนรักมันกำลังไปดูคอนเสิร์ตอยู่ตอนนี้ ยิ่งเกิดความริษยาสว่างวาบขึ้นมาทีเดียว
ยกครัวไปที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง เดือน มี.ค.51 จ้า
เพราะอยากพาพ่อแม่ไปเที่ยวด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง แต่ตอนนี้คือพี่ชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) โทรมาบอกว่า พี่สะใภ้ “ท้องแล้วจ้า” หลังแต่งงานมาเป็น 10 ปี และ คลอดเมื่อ มกราคม 51 ดังนั้น บรรดาญาติวงค์จึงตั้งความหวังกับอิชั้น ซึ่งไป “ลองของ” มาแล้ว ให้พาไปซะดี ๆ ซึ่งทริปนี้ที่ยืนยันก็จะมี พ่อ แม่ ฉัน น้า (แม่ของพี่ชายที่เพิ่งมีลูก)
จริง ๆ วางแผนมาตั้งแต่ทราบว่าพี่สะใภ้ท้อง คือมิถุนา แต่ครั้นโครงการจะราบรื่นเนี่ย กลายเป็นว่าฉุกละหุก แทบไม่ทัน เพราะว่าลาพักร้อนไว้ ช่วง 8-16 มีนา 51
แต่กว่าจะรอทุกคนว่าง เตรียมเอกสารครบ ใครยังไม่มีรูปก็ไปถ่ายรูป บางคนก็ไปต่างจังหวัด สรุปแล้วกว่าจะได้เดินทางไปทำวีซ่าก็เป็นวันที่ 27 ก.พ.51 แหม ช่างกระชั้นชิดจริงๆ และเมื่อไปขอวีซ่านั้นก็มีเรื่องทำให้ใจตุ๋ม ๆ ต่อม ๆ ก็คือ
เขาบอกจะแจ้งรับเล่มทางโทรศัพท์ แทนที่จะเป็น 2 วันถัดไป แงๆๆๆๆ
ไอ้ตัวเราเองก็ไม่น่ากังวลเท่าไหร่ เพราะเคยไปญี่ปุ่นมาครั้งนึงแล้ว ไปคนเดียว ผ่านฉลุยไม่มีปัญหา
คราวนี้ไปกับพ่อ แม่ และน้า ซึ่ง 3 คนนี้ยังไม่เคยไป (เกษียณแล้วทั้งหมด) เกรงว่าจะติดที่ 3 คนนี้
แต่แล้วเย็นวันที่ 28 ทางสถานทูตก็โทรมาบอกให้ไปรับวันที่ 29 ฮ่าๆๆๆๆ ดีใจที่ไม่ต้องคอยนาน จะหมู่หรือจ่าก็วันนี้
ก็ไปรับตอนบ่าย ดีใจมากที่วีซ่าผ่านทุกคน จ่ายคนละ 980 บาทแม้ว่าจะให้เพียง 15 วันก็เถอะน่า (คราวที่แล้วเค้าได้ 90 วันเชียวน๊า….)
ออกจากสถาณทูตมุ่งหน้าไปศูนย์สิริกิติ์ทันทีเพราะว่ามีงานท่องเที่ยวอยู่ ตั้งใจจะไปซื้อตั๋วเครื่องบิน ที่ไม่ซื้อล่วงหน้าก็เพราะว่ากลัววีซ่าไม่ผ่าน ซึ่งนี่แหละเป็นความผิดพลาด
“เต็มหมดเลยครับ เหลือแต่การบินไทย 5 ที่ บิน วันที่ 9 ตอน 5 ทุ่มครับ”
ใจตอนนั้นไม่อยากได้เลย เพราะแพงกว่าเจ้าอื่น เลยให้เขาหา ๆ เลื่อนวันไปมาแต่ก็ไม่ได้
“เอาการบินไทยเที่ยวนั้นก็ได้ค่ะ”
พนักงานก็คีย์ปุ๊บ….
“เหลือ 2 ที่เองครับ!!!!”
ซวยแล้วตู !!!!
ช่วงไม่ถึง 5 นาที มีคนสอยไปแล้ว 3 ที่ เลยตั้งติด waiting listไว้
ทีนี้ล่ะเดินเป็นหมูติดจั่นเลย กินไม่ได้นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ใจจดใจจ่ออยู่ แต่ก็รอไม่นานเท่าไหร่ เพราะวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ก็โทรมาบอกเลยว่าได้ตั๋วเครื่องบินแล้วจ้า
เอาล่ะขั้นต่อไปคือจองโรงแรม
ที่ไม่จองโรงแรมก่อนเพราะต้องรอตั๋วก่อน จะได้รู้วันเวลา
ทีนี้โรงแรมก็จะเต็ม
จากเหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า
1. ต้องทำวีซ่าล่วงหน้าให้นาน ๆ เพราะพอได้วีซ่าแล้วจะมีอายุ 3 เดือน ที่ 15 วันหมายความว่าเราเหยียบญี่ปุ่นแล้วอยู่ได้แค่ 15 วัน แต่ถ้ายังไม่เหยียบก็เก็บวีซ่าไว้ได้ 3 เดือนกว่าจะเดินทาง
2. หลีกเลี่ยงช่วงใกล้ปิดเทอม เพราะเราลืมไปว่า มีนาคมเด็กปิดเทอมไปกันเยอะ ตั๋วจะหายาก ถ้าจะให้ดีต้องหลีกเลี่ยงถ้าเป็นไปได้
3. โรงแรมควรรีบจองแต่เนิ่น ๆ ช่วงที่ตั๋วเครื่องบินเต็ม มีสิทธิ์ว่าโรงแรมจะเต็มด้วย ต้องเช็คให้ดี ๆ
พูดถึงโรงแรม เราให้บริษัททัวร์ที่จองตั๋วเครื่องบินจัดการให้ ได้ Shinjuku listel hotel
แต่จริง ๆ จองเองจะถูกกว่านะ แต่เราไม่มีเวลาและปัญญา…
ได้ที่ Shinjuku listel hotel
เอาล่ะน๊า Japan อยู่แค่เอื้อมแล้ว…ว
[…] ทริปอดีต Japan(s.2) ตอน 1 ขั้นเตรียมตัว […]