<<ไปอ่านตอนที่แล้ว Go Japan 2 นั่งรถไฟไป Atami ที่นี่
หลังจากตอนที่แล้วที่พาช๊อปในตลาดสถานีรถไฟอาตามิ ได้ของกันพะรุงพะรังทีเดียว พอเอาของไปวางที่โรงแรมแล้ว ก็ออกมาช๊อปใหม่ ถ่ายรูปหน้าโรงแรมด้วย
ยิ้มแก้มกลมหน้าโรงแรมซะงั้น
ช่วงนี้แยกกันเดิน ให้น้าไปกับแม่ ส่วนฉันไปกับพ่อ แต่เดินไปเดินมา พ่อชักจะหนาว น่าจะราว ๆ 10 องศา (ฉันที่ว่าชอบหนาวก็ไม่ไหวเหมือนกัน) เลยพาพ่อไปส่งโรงแรมก่อน
ส่วนฉันออกมาช๊อปต่อ..
ออกมาคราวนี้พ่อบอกให้ซื้อโค๊กไปด้วย แต่หายากเหลือเกิน ก็พอเข้าใจว่าคนญี่ปุ่นรักสุขภาพ น้ำอัดลมไม่ค่อยมี เลยซื้อเป๊บซี่แม๊กซ์มาให้พ่อ เพราะพ่อก็เป็นเบาหวานด้วย
ฉันเดินวนไปมาได้ไม่นานเท่าไหร่ ก็หนาวทนไม่ไหว ถ่ายรูปไปสองแช๊กก็เดินกลับมาโรงแรม
(จริง ๆ เดิน 10 นาทีก็ถึงทะเลแล้ว แต่เดินไม่ไหวจริง ๆ หนาว)
กลับมาก็พากันเข้าห้อง โอ้โห…ห้องเขาจัดสไตล์ญี่ปุ่นเลยนะ ประตูนอกเป็นประตูไม้จริง แต่ด้านในมีประตูกระดาษกั้นเป็นส่วนต่าง ๆ
ห้องของฉัน เบอร์ 406 เป็นห้องริม นอนได้หลายคน แต่เขาก็คิดราคาตามหัวคือคนละ 10,000 เยน (ประมาณ 3000 บาท) ให้เขาจัด 2 ห้อง คือพี่นอนกับน้า ส่วนเราพ่อแม่ลูกนอนด้วยกัน แต่ให้เขาจัดอาหารรวมที่ห้องฉันซึ่งเป็นห้องใหญ่ค่ะ

ส่วนของห้องน้ำ เปิดไปเจออ่างล้างมือก่อน แล้วก็จะมีอีกประตูหนึ่งเป็นส้วมค่ะ
ส้วมที่นี่นอกจากจะมีล้างก้น ล้างด้านหน้า แล้ว ยังมีเป่าลมด้วย อันนี้ชอบ ๆ แห้งสบายดี
อีกด้านหนึ่งเป็นห้องอาบน้ำ แยกจากส้วมและที่ล้างหน้า
น้ำร้อน + อุ่นมาก (แต่ไม่ใช่น้ำแร่ น้ำแร่ต้องลงไปแช่รวมข้างล่าง) แต่พอเหยียบพื้นเท่านั้นโอ้โห…เย็นเจี๊ยบ ยืนไม่ได้ ต้องกระโดดไปมา
สำรวจที่ทางเสร็จแล้ว พวกเราก็จะไปแช่ออนเซ็นกันค่ะ
ที่ไปก็จะมี ฉัน น้า แม่ และพี่เป๋อ ส่วนพ่อไม่ได้ไป เพราะกินเบียร์เข้าไปมาก การแช่ออนเซ็นอาจทำให้หัวใจวายได้ เลยให้พัก นอนดูทีวีที่ห้อง
แต่งกายกันเสียหน่อย ด้วยชุดยูกาตะ (ถ้าเรียกไม่ผิดคือยูกาตะใช่ไหมคะ)
เริ่มจากนางแบบคนแรก น้า…มาในชุดยูกาตะสีขาวดอกเขียว ยืนเท้าข้างฝาอย่างมั่นใจเรียกคะแนนจากกรรมการ
ตามมาด้วยคุณแม่ ไม่ทิ้งลายนางงามเก่าหนังสือพิมพ์เสียงอ่างทองราว 50 ปีก่อนที่คว้าแชมป์ได้รางวัลจักรเย็บผ้าและทรานซิสเตอร์ 50 ปีก่อนยิ้มอย่างไรปีนี้ก็ยังยิ้มอย่างนั้น (เห็นภาพนี้กรรมการสมัยนั้น อย่ามาทวงรางวัลคืนนะคะ เพราะไม่มีจะคืนให้แล้ว…)
ตามมาด้วยคุณลูกตัวเกร็งกะจะเข้าประกวดธิดาฮิปโป แต่กรรมการหนักใจ ให้รางวัลไม่ถูก มาในยูกาตะสีขาวลายทาง
สุดท้ายเป็นชายงาม ซามูไรพ่อลูกอ่อน ขวัญใจพี่ชิฮารุ
แต่งกายกันพร้อมสรรพ ก็ไปแช่ออนเซ็นกันได้
ที่นี่กติกาก็เหมือนที่อื่น คือแก้ผ้าหมด ผู้หญิงเข้าประตูแดง ผู้ชายเข้าประตูน้ำเงิน ไม่ควรจำตำแหน่งห้องเพราะเขาจะมีการสลัับห้องกันใช้ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ สำหรับนักแช่ออนเซ็นตัวยง
ก่อนลงอย่าลืมชำระร่างกายให้สะอาดเรียบร้อยนะคะ
ฉันแม่และน้า พออาบน้ำเสร็จก็ลงเลย ฉันลงก่อน โอ้ ร้อนแทบสุก ต้องค่อย ๆ หย่อนตัวลงไป แรก ๆ ก็บ่อนร้อน ๆ พอเข้าที่็ก็นั่งคุยกันสบาย
ตอนแรกคุณแม่บ่นอุบ แต่พอเข้าที่แล้วไม่อยากจะขึ้น
แช่กันราว ๆ ครึ่งชั่วโมงก็กลับห้องค่ะ(ยกเว้นพี่เป๋อ จนพวกเราขึ้นกันมาที่ห้องแล้วยังไม่เห็นแก ท่าจะติดใจ)
ขึ้นมาก็เริ่มเย็น มาชมโรงแรมจากการถ่ายรูปที่ระเบียงนะคะ
ชมวิวกันเสร็จหันมาอีกที อาหารจัดเสร็จแล้ว อ่ะฮ่า….
มาดูอาหารกัน
นี่เป็นชุดที่ทางโรงแรมจัดให้สำหรับ 5 คนนะคะ
ขึ้นมาจากออนเซ็นฉันก็ชักหิว เดี๋ยวจะกินไปบรรยายไปนะคะ
อันนี้เหมือนต้มเค็มลูกชิ้นปลา แต่ก็ไม่เค็มจัดมาก อร่อยดีค่ะ
อันนี้คือสิ่งที่อยู่ในหม้อไฟ ไม่แน่ใจอันนี้เขาเรียก นาเบะ มั๊งคะ (ผู้รู้บอกที) โอววว ปลาแซลมอนส้มได้ใจจริง ส่วนภาพขวาล่างคือไข่ตุ๋นนะคะ



เกือบลืม เครื่องเคียง ขิงดอง
คุณน้ากับหม้อไฟ จะเห็นได้ว่าหม้อไฟของแต่ละคนใหญ่ไม่ใช่เล่นเชียว
พอทานอาหารกันเสร็จ แม่บ้านจะมาเก็บโต๊ะ และปูที่นอนให้ แม้อากาศจะเย็นแต่ก็อุ่นมาก นอนได้สบายไม่เจ็บหลังเลย
นี่ค่ะ แม่บ้านของเรา โดยจรรยาบรรณเลยไม่อาจให้เห็นใบหน้าได้ ไม่ช่าย…ย.. ถ่ายไม่ทัน กลับมาก๊อน…น..
พรุ่งนี้เราจะเดินทางจากอาตามิ ไปชมปราสาท odawara กันค่ะ
กดที่นี่ได้เลย
Recent Comments